เล่าเรื่องผีคุณปู่ แบบนี้ก็เจอดีไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำเอาหลานเกือบจับไข้เป็น เดอะ ช็อค โดย คุณ ปู่

เล่าเรื่องผีคุณปู่ กลายเป็นเรื่องของ เดอะ ช็อค โดย คุณ ปู่ เล่นหลานซะขวัญกระเจิง

เล่าเรื่องผีคุณปู่ เป็นเรื่องเล่าของ ชายคนหนึ่งที่ เดินทางเพื่อไป ทำงานบุญร้อยวัน ของคุณปู่ที่ เพิ่งเสียชีวิต ไปได้ไม่นาน เขาบอกว่าก่อนหน้า คุณปู่ที่ท่าน เป็นคนที่มี ความแข็งแรงอย่างมาก และตอนที่ท่าน เสียชีวิตไปนั้น ก็แค่อายุ 72 ปีเท่านั้นครับ แถมด้วยไม่ได้ เกิดจากอาการ บาดเจ็บใด ๆ กันอีกต่างหาก ก็เพียงแค่หลับไป แล้วก็ไม่ตื่น ขึ้นมาก็เท่านั้น

เล่าเรื่องผีคุณปู่ ครั้งนี้ก่อนหน้านี้คุณปู่ ท่านนี้ท่านก็อยู่ ของท่านในแบบ ที่มีโลกส่วนตัว แบบที่ไม่ค่อยชอบ จะไปยุ่งกับใคร สักเท่าไรคือ ข้าไม่ยุ่งกับใคร ใครก็อย่ามายุ่งกับข้า ประมาณนั้นเลยครับ แต่ด้วยความที่ แกมีของรักของหวง

ซึ่งไม่ใช่คุณย่านะครับ แต่รักมากกว่าคุณย่า ก็คือจักรยานนั่นเอง และก็เป็นที่รู้ กันดีนะว่า ใครก็ตามอย่าได้ มาแตะจักรยาน ของแกเด็ดขาด เพราะถ้าเอาไปขี่เล่น แล้วล่ะก็จะโดนบ่น แบบที่ข้ามวัน กันเลยทีเดียว และต่อมาเมื่อท่าน ได้สิ้นอายุขัยไป เจ้าจักรยานคันนั้น ก็ยังคงจอด อยู่ที่เดิมนั่นแหละ และยังไม่ได้ มีใครไปยุ่งเกี่ยว เลยอีกด้วยครับ

เล่าเรื่องผีคุณปู่ เรื่องแบบนี้ก็เห็น ที่ต้องพึ่งพา เดอะ ช็อค พระธุดงค์

เรื่องราวมันมาเกิด ตรงที่ก่อนจะถึง วันครบรอบหนึ่งร้อยวัน ที่บรรดาลูกหลาน ต่างก็เดินทางกันมา เพื่อที่จะได้ ทำงานบุญให้คุณปู่ ซึ่งบ้านที่อยู่ ในแถบต่างจังหวัด หรือจะเรียกว่า บ้านนอกนั่นแหละครับ ก็ได้มีการ เตรียมงานกันด้วย

การเตรียมทำอาหาร เพื่อที่จะได้ นำเอาไปทำบุญ กันในตอนเช้านั่นเอง แต่ขณะที่กำลัง ทำขนมหวานอยู่นั้น น้ำตาลที่เรา ซื้อมานั้นไม่พอ คุณแม่ก็เลยใช้ ให้ลูกชายไปซื้อ มาจากร้านค้า ที่ตั้งอยู่แถว ๆ หน้าปากซอยซึ่ง ก็อยู่ห่างจากบ้านงาน น่าจะประมาณ 700 เมตรที่ปกติแล้ว ก็จะใช้วิธี การเดินออกไปซื้อ นั่นเองแหละครับ

แต่ด้วยวันนี้ เป็นเวลาที่ใกล้ จะค่ำมากแล้ว และทางเดินก็มัก จะมีต้นไม้ ครึ้มอยู่ตลอดทาง และก็ยังไม่ค่อย จะมีไฟฟ้า ที่ติดอยู่ที่ ข้างทางอีกด้วย ทำให้เส้นทาง ที่จะต้องไป ซื้อน้ำตาลนั้น มีความมืดอย่างมาก แต่เมื่อลูกชาย ได้เดินออกมา ถึงหน้าบ้านแล้ว พลันสายตาก็เหลือบไป เห็นจักรยาน คันหนึ่งจอดอยู่

ลืมคิดไปว่า เป็นของรักและ ของหวงของคุณปู่

ความคิดนั้นก็เร็ว เท่ากันกับขาเลย ก็ตั้งใจที่จะ เอาจักรยาน คันนั้นขี่ไป ซื้อน้ำตาลแต่ พอมาคิดได้ว่าเป็นรถ ที่คุณปู่หวงมากนะ กลัวเหมือนกันแต่อีกใจ ก็คิดว่าคุณปู่ เสียไปนานแล้ว ไม่น่าจะเป็นอะไร แล้วก็จะไป

ซื้อของมาทำงาน ให้คุณปู่นั่นแหละ ก็เลยตัดสินใจ เอาจักรยานคันนั้น ขี่ไปซื้อน้ำตาล ที่หน้าปากซอย ในขณะที่ปั่น ไปถึงร้านค้า ก็ไม่ได้มี อะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเขาซื้อ น้ำตาลเสร็จแล้ว ซึ่งเป็นเวลา ที่ค่ำมากยิ่งขึ้น และก็มืดมาก ๆ อีกด้วยทำให้ เขาพยายามที่จะ ปั่นให้ถึงบ้าน ให้เร็วที่สุด

แต่ยิ่งปั่นก็ยิ่ง รู้สึกว่ามัน ยิ่งมีความหนักมาก ๆ เรียกว่าเกือบปั่น แทบจะไม่ออก และก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยมาก แถมสองข้างทาง ที่มีต้นไม้ครึ้มมาก และไม่มีไฟฟ้า แม้แต่ดวงเดียว ทำให้บรรยากาศ ยิ่งวังเวงและ น่ากลัวเข้าไปอีก

ถึงแม้ว่าชายหนุ่มคนนี้ จะยิ่งออกแรงปั่น ไปมากเท่าไร ก็ดูเหมือนว่า ไม่ค่อยจะเป็นผลเลย ยิ่งรู้สึกเหมือนกับว่า หนักมากขึ้นเรื่อย ๆ และต่อมาก็คือ รู้สึกเหมือนว่า มีใครเอามือมาแตะ ที่หลังของเขา

ว่าแล้วไงว่า จะต้องมีอะไร ที่มันต้องแปลก ๆ แต่ใจก็ยัง สู้ปั่นต่อไป

ทำให้ชายคนนี้หยุดปั่น โดยอัตโนมัติ เพราะว่าเขานั้น ปั่นไม่ออกแล้ว และขามันแข็งไปหมด จึงทำให้เขานั้น ก็เลยค่อย ๆ หันหลังไปดู ข้างหลังถึงที่มา ว่าเกิดอะไรขึ้น และใครกันแน่ ที่เอามือมาแตะ ที่หลังของเขา

และสิ่งที่เขา ได้เห็นก็คือ หน้าของคุณปู่ ที่กำลังจ้องเขม็ง มาที่เขาและ ตอนนั้นบอกเลยว่า เขาได้ร้องกรี๊ดแบบสุดเสียง และ ๆ ได้ทิ้งจักรยาน แล้วก็ใส่ตีนสุนัข วิ่งแบบไม่คิดชีวิต ไม่รู้เอาแรง มาจากไหนกันทั้ง ๆ ที่ขาอ่อนแรงไปแล้ว

จากการที่ได้ ปั่นจักรยานเรียกว่า วิ่งแบบหน้าตั้ง และไม่หันไปมอง ข้างหลังอีกเลย เมื่อมาถึงบ้าน ทุกคนที่บ้าน ต่างก็พากันตกใจ และในขณะที่เขากำลัง เล่าเรื่องทุกอย่าง ให้บรรดาญาติ ๆ ที่ต่างก็มา ร่วมฟังเรื่องราว ที่เกิดขึ้นนั้น

เขาพูดไม่เป็นภาษาคน เล่าเรื่องผีคุณปู่ ด้วยความตกใจสุดขีด เพราะพูดไปก็ร้องไห้ไป จะไม่ร้องได้ไง เพราะว่ามันเป็น ประสบการณ์แรก ของการได้เจอ ผี แบบมีระยะ ประชิดตัวขนาดนี้ ถือเป็นประสบการณ์ ความ ลับ กระตุก ขวัญ ครั้งแรกในชีวิต

ทำให้คิดไปถึง เรื่อง เล่า เดอะ ช็อค คุณ ปู ที่เคยโด่งดัง

ที่เป็น เรื่อง เล่า คุณ ปู เคยเล่าเอาไว้ ทำให้คุณย่าต้องไป เอาสายสิญจน์มา ทำพิธีเพื่อจะ ผูกข้อไม้ข้อมือ เพื่อจะเรียกขวัญ กันเป็นการใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ ทำให้เขาคนนั้น หายกลัวไปแต่อย่างใด ไม่มีใครถาม ถึงเรื่องของน้ำตาลเลยนะ

ว่าเขาจะมีสติ เพื่อที่จะคว้า ถุงน้ำตาลติดมือ กลับมาด้วยหรือเปล่า ที่ในครั้งนั้น เรื่องเล่า ใน ป่า พี่ปู ก็มีความคล้าย ๆ กันแบบนี้เช่นกัน แล้วมีใครที่ได้ กลับไปเอาจักรยาน มาหรือเปล่าแต่ที่แน่ ๆ คือคืนนั้นเขา ไม่ยอมนอนคนเดียว อย่างแน่นอนและ ต้องขอไปนอน กับพวกผู้ใหญ่ในห้อง พอรุ่งเช้าก็มีคน ไปเอาจักรยาน คันนั้นมาจอดไว้ที่เดิม

และเมื่อได้ทำพิธี บุญร้อยวันเสร็จ ก็ได้นิมนต์พระ ทำการพรมน้ำมนต์ ที่จักรยานคันนั้นด้วย และขอให้คุณปู่ท่านนี้ ไปสู่สุคติ และไม่ต้องยึดติด หรือมีห่วงอะไรอีกเลย

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นมา ก็ไม่มีใครสนใจ เล่าเรื่องผีคุณปู่ หรือจะไปยุ่งกับ จักรยานคันนั้นอีกเลย แต่ทางคุณปู่ ก็ไม่ได้ออกมา หยอกเย้ากันกับ บรรดาลูกหลาน อีกแต่อย่างใด หรืออาจจะเป็นไปได้ ว่าคุณย่าท่านขู่ว่า ถ้ามาทำให้ ลูกหลานเสียขวัญอีก จะเผาจักรยาน คันนั้นทิ้งซะเลย

หรือเป็นเพราะว่าการ เล่าเรื่องผีคุณปู่ ทำให้คุณปู่ยังเกรงใจคุณย่าอยู่ ก็เลยไม่เคย เห็นคุณปู่มานั่ง ที่จักรยานอีกเลย จึงเรียกได้ว่า อะไรก็ตาม ที่เป็นของรักของหวง ก็อย่าเข้าไปยุ่ง จะดีกว่าไหมครับ ไม่อย่างนั้นก็จะ เจอเหมือนกันกับ คุณพี่ท่านนี้ กันอย่างแน่นอนครับ เรียกว่าใครที่ ยังไม่สะใจ สามารถติดตามเรื่องราว เรื่องเล่า ผี ป่าช้า และ เรื่องเล่าผีป่า ได้ในบทความต่อ ๆ ไปได้เลยครับ

—*—อ้ายตัวกลม