เรื่องราวของพลังจิต​ สิ่งที่มีความวิเศษและหาคำตอบ​ไม่ได้ชัดเจน

เรื่องราวของพลังจิต​ ซึ่งแท้จริงแล้วมันคืออะไร​ เราจะพาคุณไปไขคำตอบกันว่าเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ เรื่องราวของพลังจิตค้นหามากจริง ๆ

เรื่องราวของพลังจิต​ พลังจิตคืออะไร สิ่งที่ถือกำเ​นิด​ในตัวของมนุษย์ทุกคน​ แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่า​ มนุษย์สามารถนำพลังงาน​ในตัวเองออกมาใช้ได้​ ซึ่งพลังงานนั้น ก่อกำเนิดจากจิตของคุณนั่นเอง​

​โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น​ มีความวิเศษจากธรรมชาติ​ที่มีอยู่ในตัวเองตั้งแต่แรก​ เป็นเสมือนของขวัญจากธรรมชาติ​ และจักรวาลที่แสนกว้างใหญ่​มอบให้เป็นของขวัญ​ แต่จะมีสักกี่คนกันที่จะรู้วิธีการ​ นำพลังนั้นออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้​ ซึ่งถ้าคุณได้รู้ความลับว่า​พลังจิตนั้น สามารถทำอะไรได้บ้าง​ รับรองได้ทันทีว่าคุณจะต้องอ้าปากค้าง ​ในความวิเศษที่มีในตัวเอง​

พลังจิตนั้นเกิดจากอะไร​ เชื่อเหลือเกินว่ามีคนมากมาย​ สนใจและอยากจะทราบความหมายที่แท้จริง​ ของสิ่งนี้จึงมีผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่อง​ พลังวิเศษนี้ทำการศึกษาหาคำตอบ​ ในเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน​ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วนั้น​ พลังจิตเกิดจากการเข้าใจธรรมชาติของจิต​

แล้วธรรมชาติของจิตที่แท้จริงคืออะไร​ ฝึกพลังจิต ให้คุณลองนึกภาพตามง่าย ๆ ว่า​ คุณนั่งกินกาแฟท่ามกลางป่าที่สวยงาม​ พร้อมกับเสียงนกร้อง​ ในขณะนั้นเอง​ เมื่อมันได้สัมผัสธรรมชาติรอบตัว​ แล้วฟังเสียงนกร้องอย่างเพลิดเพลิน​ จิตใจคุณจะเริ่มเข้าสู่สภาวะแห่งความสงบ​ เคล็ดลับที่แท้จริงเกิดได้จากใจที่สงบและปราศจาก​ ความคิดทุกประเภท ที่จะมารบกวนใจของคุณ​

เมื่อใจคุณว่างเหมือนกับน้ำที่ใสบริสุทธิ์​ แม้เพียงแค่ระยะเวลา​ 1​ นาทีก็ก่อให้เกิดสมาธิ และก็จะนำพาไป​สู่​การเกิดพลังงานของจิตขึ้น​ การส่ง พลังจิต อันนี้คือแบบพื้นฐาน ของการฝึกให้เกิดพลังจิต​ แต่ถ้าจะเอาในระดับขั้นที่สูงมากขึ้นกว่านี้​

การจะก่อกำเนิดพลังงานของจิตได้นั้น​ ต้องมีหลักในการยึดของจิตเสียก่อน​ วิธีปลุกพลังจิต ให้คุณตั้งภาพขึ้นมาในหัวสักอย่างนึง ที่คุณชื่นชอบหรือศรัทธา​แล้วนึกแบบสบาย ๆ จนภาพนั้นติดเข้าไปในสมองของคุณ​

เรื่องราวของพลังจิต สามารถค่อย ๆ ฝึกได้ด้วยตนเอง แต่ต้องใช้สมาธิและระยะเวลาโดยพอควร เรื่องราวของพลังจิต แม้จะดูแปลกและแตกต่างแต่ก็ควรค่าที่จะลองฝึก

คลื่นสมอง พลังจิต ไม่สามารถหายไปไหนได้​ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น​ คุณเชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์เรา สามารถส่งจิตออกไปยังนอกโลกได้​ เรื่องนี้ไม่ได้เกินความจริง​ เพราะว่าจิตของเรานั้นไวกว่าแสง​ ทั้งชีวิตคุณอาจไม่มีโอกาส​ ได้เดินทางไปยังนอกโลก ด้วยจรวดขององค์การ​ NASA ได้แต่ถ้าคุณเข้าใจเรื่องพลังงานของจิตดีแล้ว​

คุณจะสามารถส่งจิตของคุณ​ ออกไปท่องโลกอวกาศในจักรวาล ได้​อย่างไม่มีปัญหา และรวดเร็วจนคุณตกใจ ​กลับมาที่เคล็ดลับของมัน​ คุณลองเอาไปฝึกดูก็ได้​ สมมุติว่าคุณอยากรู้ เกี่ยวกับดวงจันทร์​ ให้มากขึ้นหรือชื่นชอบดวงจันทร์มาก ๆ​

ให้คุณหาภาพดวงจันทร์สักภาพนึงที่คุณชอบ​ แล้วนั่งดูภาพนั้นไปเรื่อย ๆ จนกว่า​ ภาพที่คุณนั่งดูนั้นจะติดตาจนติดเข้าไปในสมอง​ แล้วให้คุณทำใจให้ว่าง​ แล้วสั่งจิตไปพร้อมกับการนึกภาพนั้น​ ว่าดวงจันทร์​ด้วยการพูดซ้ำไปซ้ำมา จนกว่าจิตของคุณจะเกิดความสงบ และเป็นสมาธิ​

เมื่อจิตของคุณมีสมาธิ จดจ่อกับภาพนั้นดีมากเท่าไหร่​ ภาพดวงจันทร์ที่คุณระลึกนึกถึงนั้น​ จะยิ่งชัดสว่างมากยิ่งขึ้น​ และคุณจะได้สัมผัสพลังงานของดวงจันทร์ผ่านจากภาพที่คุณตั้งระลึกไว้​ ส่งผ่านลงมาที่จิตของคุณ​ และไปยังร่างกายของคุณอีกด้วย​

เมื่อคุณสามารถทำได้ขนาดนี้แล้ว​ คุณจะเข้าใจโดยธรรมชาติไปเองว่า​ พลังจิตนั้นคืออะไร​ พลังจิตเมื่อคุณเข้าใจหลักการฝึกดีแล้ว​ คุณสามารถนำพลังงานนั้น​ ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้อีกด้วย​ สามารถรักษาอาการป่วยให้กับคนอื่นก็ยังได้​ สามารถอ่านใจคนก็ไม่ใช่เรื่องยาก​ เพียงแค่คุณเข้าใจว่า​ การจะนำพลังจิตมาใช้ต้องทำยังไง​

หวังว่าคุณจะลองนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กันดูนะคะ เคล็ดลับที่สำคัญก็คือ​ การทำใจให้ว่างและสบาย​ พลังจิตไม่ได้เกิดจากการบังคับร่างกายให้ตึงเครียด​ แต่เกิดจากจิตที่ว่างและมีจุดโฟกัสจากภาพนั้นจนดีมากพอ​ พลังจิตจึงจะเริ่มเกิดขึ้นให้คุณรู้​ ซึ่งคุณจะรู้ได้ด้วยตัวเอง​ เมื่อคุณฝึกจนเข้าใจดีแล้ว

เรียบเรียงโดย​ อลิส